29
Multimeter เป็นเครื่องมือวินิจฉัยที่สำคัญในวงการไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยความสามารถในการวัดแรงดันไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า และความต้านทานอย่างแม่นยำ จึงเหมาะกับงานที่หลากหลาย ตั้งแต่การตรวจสอบระบบไฟฟ้าในบ้าน ไปจนถึงการทำงานกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ซับซ้อน
บทความนี้จะพาคุณทำความรู้จักกับ Multimeter ทั้งในรูปแบบดิจิตอลและอนาล็อก พร้อมแนะนำวิธีการเลือก Multimeter ที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ
Multimeter แบบดิจิตอล (DMM : Digital Multimeters)
Multimeter แบบอนาล็อก
การเลือก Multimeter ที่เหมาะกับคุณ
- ความต้องการในการวัด: ควรพิจารณาว่าคุณต้องการวัดแรงดันไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า หรือความต้านทานในระดับใด หากทำงานกับอุปกรณ์ที่ซับซ้อนหรือในงานอุตสาหกรรม ควรเลือก Multimeter ที่มีความแม่นยำสูง เช่น แบรนด์ Fluke หรือ Keysight
- ข้อจำกัดด้านงบประมาณ: หากมีงบประมาณจำกัด อาจเลือก Multimeter จากแบรนด์ที่ราคาย่อมเยากว่า เช่น INNOVA หรือ AstroAI ซึ่งยังคงมีคุณภาพดีและเหมาะกับงานทั่วไป
- ฟีเจอร์การใช้งาน: ฟังก์ชันที่ต้องการ เช่น การจัดเรียงข้อมูลอัตโนมัติ แสงพื้นหลัง หรือการบันทึกข้อมูล เป็นสิ่งที่ควรพิจารณา แบรนด์ TekPower และ Extech นำเสนอ Multimeter ที่มีฟีเจอร์เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน
- ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย: ความปลอดภัยสำคัญมาก เลือก Multimeter ที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย เช่น แบรนด์ Fluke และ Keysight ที่มีชื่อเสียงด้านความปลอดภัยในการใช้งานในสภาพแวดล้อมต่างๆ
Multimeter สามารถทำงานได้หลากหลาย ดังนี้:
- การวัดแรงดันไฟฟ้า: วัดได้ทั้งแรงดันไฟฟ้ากระแสตรง (DC) และกระแสสลับ (AC)
- การวัดความต้านทาน: ใช้ตรวจสอบความต้านทานของวัสดุหรือส่วนประกอบ
- การทดสอบความต่อเนื่อง: ตรวจสอบว่าสายไฟหรือวงจรเชื่อมต่อและทำงานได้ถูกต้อง
- การวัดความถี่: วัดความถี่ของสัญญาณไฟฟ้า
- การวัดอุณหภูมิ: บางรุ่นสามารถใช้วัดอุณหภูมิได้
- การวัดรอบการทำงาน: วัดรอบการทำงานของรูปคลื่นพัลส์
- การทดสอบไดโอด: ตรวจสอบการทำงานของไดโอด
- การทดสอบทรานซิสเตอร์: ทดสอบและตรวจสอบการทำงานของทรานซิสเตอร์
- การวัดความเหนี่ยวนำ: วัดความเหนี่ยวนำของตัวนำไฟฟ้า
Multimeter เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ช่วยให้ช่างสามารถวัดและตรวจสอบระบบไฟฟ้าได้อย่างแม่นยำและปลอดภัย